นูริ อดีตแข้งดาวรุ่งฟื้นจากโคม่าแล้ว


นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีในวงการฟุตบอล เมื่อ อับเดอราฮิม นูริ อดีตมิดฟิลด์ดาวรุ่งของ อาแจ็กซ์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ อับเดลฮัค นูริ ได้เปิดเผยว่า น้องชายของเขา กลับมาได้สติอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ต้องอยู่ในสภาพโคม่ามาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี, 8 เดือน กับอีก 19 วัน และต้องจบเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากในช่วงที่เขายังค้าแข้งอยู่นั้น ถือได้ว่าเป็นช่วงที่นักเตะกำลังมีอนาคตสดใสมากที่สุด นูริ เป็นนักเตะที่เกิดจากฝีมือการปั้นของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในประเทศ เนเธอร์แลนด์ โดยเขาได้อาศัยอยู่ใน อะคาเดมี่ มาตั้งแต่ปี 2005 ก่อนจะทำผลงานการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมถึงขั้นติดทีมชาติ ฮอลแลนด์ ชุดเยาวชนมาแล้วเกือบทุกรุ่น รวมถึงยังเคยมีรายชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของศึก ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ประจำปี 2016 มาแล้วด้วย ก่อนที่ในวัย 22 ปี จะเกิดป่วยอย่างกระทันหันด้วยอาการหัวใจเต้นผิดปกติจนล้มหมดสติไป ขณะกำลังทำหน้าที่เป็นขุมกำลังหลักให้กับ อาแจ็กซ์ ซึ่งกำลังแข่งขันเกมอุ่นเครื่องอยู่กับ แวร์เดอร์ เบรเมน เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ปี 2017 ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นักเตะก็ได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในทันทีผ่านการเดินทางโดย เฮลิคอปเตอร์ ต่อมาแม้ว่าทางโรงพยาบาลจะแจ้งมาว่าอาการของเขายังอยู่ในขั้นทรงตัว แต่พอผ่านหลังจากนั้นไป 5 วัน ทางฝั่งของสโมสร อาแจ็กซ์ ก็ได้ออกมาประกาศว่า มีการตรวจพบความเสียหายขั้นร้ายแรงในบริเวณสมองบางส่วน ซึ่งเป็นความเสียหายในรูปแบบถาวร และหลังจากนั้น นูริ ก็ได้ถูกนำตัวออกจากห้องไอซียูในวันที่ 27 กรกฎาคม ของปีเดียวกัน เพราะตัวคนไข้สามารถหายใจได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการใช้เครื่องมือช่วยหายใจ ซึ่งภายหลังทางสโมสรได้ออกมาแจ้งอีกครั้งถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ขึ้น ว่าเกิดมาจากการรักษาที่ไม่เหมาะสมในขณะที่นักเตะสลบอยู่กลางสนาม และมันอาจมีส่วนทำให้สมองเกิดความเสียหายรุนแรงขึ้นนั่นเอง นับแต่นั้นแข้งดังก็ต้องอยู่ในสภาพเจ้าชายนิทรามาโดยตลอด หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ นูริ ต้องจบอาชีพการค้าแข้งและไม่สามารถเข้าสู่วงการฟุตบอลได้อีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่แล้วล่าสุดทางครอบครัวของ นูริ ก็ได้ออกมาประกาศว่า ตอนนี้ นูริ ได้ฟื้นตัวมาจากอาการโคม่าแล้ว ท่างกลางการดูแลรักษาที่บ้านโดยครอบครัวของเขา พี่ชายของ นูริ ได้ให้สัมภาษณ์กับ สถานีวิทยุเจ้าหนึ่งของประเทศ ฮอลแลนด์ ว่า “ตั้งแต่เขากลับมาอยู่ที่บ้านได้ อาการของเขาก็ดีขึ้นมากกว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาลมาก แต่มันก็ไม่ได้ถึ้งขั้นที่เขาจะออกจากเตียงได้หรอกนะ เขายังต้องนอนอยู่กับเตียง และต้องพึ่งพาความช่วยเหลือต่าง ๆ จากเราไปก่อน” “วันที่เขากลับมามีอาการดีขึ้นน่ะ เขาก็สามารถสื่อสารได้นิดหน่อย อย่างเช่น การขยับคิ้ว หรือ การยิ้ม แต่คุณก็รู้ดีว่าเขาคงไม่สามารถทำท่าทางแบบนั้นได้นานเท่าไหร่ เราเองก็คุยกับเขาให้เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ป่วยอะไร เราให้เขามาร่วมวงสนทนา พร้อมกับดูฟุตบอลด้วยกันในห้องนั่งเล่น” เเทงบอลออนไลน์
191
191
youlike youlike